บริษัทกูเกิล (Google) ประกาศปลดพนักงานจำนวน 12,000 คน หรือ ราว 6% ของพนักงานทั้งหมดของตน หลังธุรกิจเทคโนโลยีหลายแห่งทำการลดต้นทุนด้วยการลดการว่าจ้างงานไปก่อนหน้า ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงอย่างหนักตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล และบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ส่งอีเมลแจ้งพนักงานของบริษัทในวันศุกร์ เกี่ยวกับแผนงานเลิกจ้างครั้งนี้ โดยมีการโพสต์สำเนาอีเมลนี้ทางบล็อกข่าวของบริษัทด้วย
แผนการปรับลดพนักงานครั้งนี้ ถือเป็นการลดจำนวนครั้งใหญ่ที่สุดที่กูเกิลเคยดำเนินการมา และเกิดขึ้นหลังจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น ไมโครซอฟท์ (Microsoft) แอมะซอน (Amazon) เมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ เฟซบุ๊ก (Facebook) และอีกหลายบริษัทปลดพนักงานรวมกันแล้วไปหลายหมื่นคนไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อรัดเข็มขัดเตรียมพร้อมรับทิศทางธุรกิจของอุตสาหกรรมที่ดูมืดมน
เอพีระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ตัวเลขการเลิกจ้างพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีสำคัญ ๆ นั้นอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 48,000 คนแล้ว
ซีอีโอพิชัย ระบุในอีเมลว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้พบเห็นช่วงเวลาของการเติบโตอันน่าทึ่ง” และว่า “เพื่อให้สอดรับและผลักดันกับการขยายตัวที่ว่า เราได้จ้างงานเพื่อรับกับสถานการณ์ความเป็นจริงที่ต่างออกไปจากที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้”
พิชัย กล่าวด้วยว่า การปลดพนักงานนี้สะท้อนให้เห็นถึง “มุมมองที่เคร่งเครียด” ของกูเกิลต่อการปฏิบัติงานจากนี้ไป โดย การเลิกจ้างครั้งนี้จะมีผล “ทั่วทั้งบริษัทอัลฟาเบท ฝ่ายผลิตภัณฑ์ การทำงาน ทุกระดับและทุกภูมิภาค” พร้อมกล่าวว่า ตนเอง “รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ่ง” ที่ต้องมีการลดพนักงานลง
ข้อมูลที่กูเกิลแจ้งต่อหน่วยงานกำกับดูแลกิจการแสดงให้เห็นว่า จำนวนพนักงานของกูเกิลขยายตัวในช่วงเกิดการระบาดใหญ่ จากระดับราว 119,000 คนที่ระบุไว้เมื่อปลายปี ค.ศ. 2019 มาเป็นเกือบ 187,000 คนเมื่อปลายปีที่แล้ว
อีเมลของพิชัยแสดงให้เห็นด้วยว่า การลดพนักงานนี้จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ และบางประเทศที่ไม่มีการระบุไว้
วิกตอเรีย สกอลาร์ นักวิเคราะห์จาก Interactive Investor ของอังกฤษ ระบุว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจคือ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายต้องหยุดจ้างงานและปรับลดพนักงาน แม้ว่า “เมื่อไม่นานมานี้ ธุรกิจเหล่านี้จะเป็นที่รักของตลาดหุ้นอย่างมาก” ก็ตาม
ในการประกาศลดพนักงานนี้ ทั้ง พิชัย และ สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ต่างเน้นย้ำความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากความก้าวล้ำนำสมัยในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท และการสะท้อนภาพให้เห็นถึงภาวะการแข่งขันครั้งใหม่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่เกิดขึ้นจากการที่ไมโครซอฟต์ขยายความเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทสตาร์ทอัพ โอเพ่นเอไอ (OpenAI) จากซานฟรานซิสโก
และหลังมีข่าวนี้ออกมา ราคาหุ้นของอัลฟาเบทปรับขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายในวันศุกร์
ที่มา: เอพี
- READ MORE